Ducati เปิดตัวโมเดลใหม่ ด้วยรถทั้งหมด 7 รุ่น ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 หรือ The 35th Thailand International Motor Expo 2018 ซึ่งทางทีมงาน Bigbikeinfo.com ได้เข้าร่วมเป็นสื่อมวลชนกับการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์จากทาง Ducati Thailand
เกี่ยวกับ Ducati เปิดตัวโมเดลใหม่ ในงาน Motor Expo 2018
คุณอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือ Ducati Thailand ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์โมเดลใหม่ที่มีความแตกต่างทางด้านสมรรถนะและคาแรกเตอร์ทั้งหมด 7 รุ่น ในงาน Motor Expo 2018 อาคารชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพคท์ เอรีนา เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 61 – 10 ธ.ค. 61
ภาพและข้อมูล ดูคาติ ทั้งหมด 7 รุ่น ที่ได้เปิดตัว
- Multistrada 1260 Enduro (มัลติสตราด้า 1260 เอ็นดูโร่) รถบิ๊กไบค์สไตล์ TOURING จากค่าย ดูคาติ ในรุ่นมัลติสตราด้า 1260 เอ็นดูโร่ (Multistrada 1260 Enduro) รถบิ๊กไบค์อเนกประสงค์ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Testastretta DVT ขนาด 1,262 ซีซี รีดแรงม้าสูงสุด 158แรงม้าที่ 9,500 รอบต่อนาที
ที่สำคัญผู้ขับขี่สามารถขับขี่ได้ด้วยความเพลิดเพลินกับการขับขี่ในระบบ Ducati Quick Shift ที่สำคัญระบบเกียร์มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก ดูคาติประเทศไทย
ด้วยเทคโนโลยี Bosch IMU 6 แกนที่สามารถทำงานร่วมกับระบบของตัวรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญมัลติสตราด้า 1260 เอ็นดูโร่ยังทำให้ผู้ขับขี่นั้นสามารถปรับแต่งระบบช่วงล่าง DSS ได้ถึง 400 รูปแบบ บอกเลยว่า รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันนี้สามารถตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบการขับขี่รถในสไตล์เอ็นดูโร่ได้แบบไร้ขีดจำกัด Multistrada 1260 Enduro สีแดง ราคา 1,099,000 บาท และ Multistrada 1260 Enduro สี Sand ราคา 1,109,000 บาท
- Hypermotard 950 (ไฮเปอร์โมตาร์ท 950) รถอีกหนึ่งรู่นที่เป็นรถสไตล์ Motard Naked หรือ Enduro Bike จากทางค่ายรถ Ducati ที่มาในชื่อรุ่น Hypermotard 950 (ไฮเปอร์โมตาร์ท 950) ดีไซจ์นใหม่ที่เพิ่มความดุดัยด้วยไฟหน้าใหม่แบบ DRL และมาพร้อมกับระบบเครื่องยนต์ขนาด 937 cc ให้กำลัง 114 แรงม้าที่ 9,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 95.6 นิวตัน-เมตร ที่ 7,500 รอบต่อนาที
ที่สำคัญ Hypermotard 950 ยัดอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี 6-axis Bosch IMU ที่จะช่วยเพิ่มการควบคุมรถทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เบรคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แม้ขนาดอยู่ในโครงก็ตาม โดดเด่นอย่างเหนือระดับด้วยเฟรมตัวถังจากเมนเฟรมต่อเนื่องมาจนถึง ซับเฟรมใต้เบาะที่นั่ง ท่อไอเสีย คู่แยกออก 2 ด้าน จอสี TFT ขาด 4.3 นิ้ว พร้อมเบาะนั่งถูกออกแบบ ให้เหมาะแก่การขับขี่และกระชับมากยิ่งขึ้น โดยทั้งหมดนี้ Hypermotard 950 ราคา529,000 บาท เท่านั้น
- Panigale 959 Corse (พานิกาเล่ 959 คอร์เซ่) รถบิ๊กไบค์ทรงสปอร์ตดีไซน์ใหม่อันเป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริงของรถแข่ง MotoGP จากค่ายรถ ที่มาในชื่อรุ่น Panigale 959 Corse และมาพร้อมกับขนาดเครื่องยนต์ Superquadro ขนาด 955 ซีซี ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อคความรู้สึกการขับขี่บนสนามแข่งและบนท้องถนนได้อย่างชัดเจน
ด้วยระบบสลิพเพอร์คลัทช์ ที่สำคัญพานิกาเล่ 959 คอร์เซ่ มาพร้อมกับท่อไอเสียที่มีน้ำหนักเบาและผ่านมาตรฐานการวัดค่าไอเสียด้วยระดับ Euro 4 พร้อมเทคโนโลยีที่อัดแน่นด้วยโหมดการขับขี่ Race Mode, Sport Mode และ Wet Mode ดังนั้นบอกได้เลยว่า เมื่อท่านได้ลองขับขี่เจ้า Panigale 959 Corse คันนี้ ท่านจะสามารถขับขี่ได้อย่างง่ายดายและสามารถตอบสนองทุกความเร็วให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่ Panigale 959 Corse ราคา 779,900 บาท
- Scrambler Icon (สแครมเบลอร์ ไอค่อน) มาต่อกันที่ Scrambler รถบิ๊กไบค์ที่มีการผสานความดั้งเดิมและนวัตกรรมที่ทันสมัยใส่ไปในตัวรถได้อย่างลงตัว บอกเลยว่าการเปิดตัวครั้งนี้ถือว่าเป็นเจเนอเรชั่นใหม่ที่มีความทันสมัยพร้อมมอบความมันส์แบบเต็มอิ่มให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างแน่นอนกับเจ้า Scrambler Icon รถบิ๊กไบค์ที่พร้อมมอบความมันส์แบบเต็มขีดสุดในดินแดนแห่ง Land of Joy ไม่ว่าจะเป็นความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าที่มีการดีไซน์ใหม่ พร้อมหน้าจอแสดงผล
และยังมาพร้อมกับการตั้งระบบ Ducati Multimedia System ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อรถและโทรศัพท์ได้ โดดเด่นด้วยเสื้อสูทที่มีการปักจนดูสะดุดตา พร้อมเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบ Dual-channel Bosch Cornering ABS ที่สำคัญยังเน้นประสิทธิภาพอย่างเต็มที่เมื่อเข้าโค้งอีกด้วย Scrambler Icon สีเหลือง ’62 Yellow ราคา 389,000 บาท และ Scrambler Icon สีส้ม Atomic Tangerine ราคา 395,000 บาท
- Scrambler Café Racer (สแครมเบลอร์ คาเฟ่ เรเซอร์) Scrambler Cafe Racer มาพร้อมกับดีไซน์สี Silver Ice Matt ซึ่งเป็นรูปแบบของสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันในตำนาน 125 GP Desmo ซึ่งเป็นการสะท้อนตัวตนของรถได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น เบาะสีใหม่ เฟรมสีน้ำเงิน พร้อมทั้งระบบเบรคที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อเข้าโค้ง
ที่สำคัญระบบคลัทช์เป็นระบบคลัทช์น้ำมัน ช่วยตอบสนองการเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างต่อเนื่องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยเจ้า Scrambler Cafe Racer ยังมาพร้อมกับหมายเลข 54 ที่สะท้อนและรำลึกถึงหมายเลขรถแข่งของ Bruno Spaggiari นักแข่ง Ducati ในตำนานได้อย่างเต็มที่ Scrambler Cafe Racer ราคา 470,000 บาท เท่านั้น
- Scrambler Desert Sled (สแครมเบลอร์ เดซเซิร์ท สเลด)มาพบกับ Scrambler Desert Sled หนึ่งในรถสไตล์เอ็นดูโร่ที่มาพร้อมกับความดุดันด้วยไฟหน้าโฉมใหม่ คมเข้มด้วยตะแกรงไฟหน้าแบบใหม่ บังโคลนหน้าทรงสูง ช่วยให้คุณสามารถลุยได้ทุกเส้นทาง ตอบสนองการขับขี่ด้วยระบบกันสะเทือนโช๊คหน้า Kayaba ขนาด 46 มม.
โดยมีระยะยุบมากถึง 200 มม. และยังสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ เพิ่มความคล่องตัวด้วยเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ พร้อมมั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบ Cornering ABS เปิดให้จอง Scrambler Desert Sled ราคาเพียง 480,000 บาท
- Scrambler Full Throttle (สแครมเบลอร์ ฟูลโทรททัล) หนึ่งในรถที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนักแต่งรถสไตล์เมกซิกันสามารถสะท้อนความรู้สึกถึงตำนานแห่ง Dirty Track ได้อย่างเต็มที่ และได้เปิดตัวในชื่อ Scrambler Full Throttle มาพร้อมกับเบาะนั่งดีไซจ์นใหม่ที่ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกกระชับมากยิ่งขึ้น พร้อมล้อแมกลาย 10 ก้าน และช่วยตอบสนองการเข้าเกียร์ด้วยระบบคลัทช์น้ำมันน้ำมัน มั่นใจด้วยระบบเบรค Cornering ABS เปิดให้จอง Scrambler Full Throttle ราคา 440,000 บาท
แคมเปญพิเศษเมื่อท่านจองรถ Ducati ที่งาน Motor Expo 2018
- ผ่อนแบบ 0% นานสูงสุด 48 เดือน
- ฟรีค่าบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 2 ปี
- รับ Ducati Cash Voucher สูงสุดกว่า 150,000 บาท
- รับแคมเปญพิเศษดอกเบี้ย 3.49% สำหรับรถดูคาติ
โดยแคมเปญนี้สามารถรับได้ เมื่อท่านจองรถตั้งแต่วันนี้ – 10 ธันวาคม 2561 ที่บูธดูคาติ ในงาน Motor Expo 2018 ที่ บูธดูคาติ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
เรียบเรียงโดย : bigbikeinfo.com