นับว่าเป็นข่าวดีอย่างมากสำหรับบรรดาสิงห์นักบิดทุกคน เพราะล่าสุดได้มีผลวิจัยพิสูจน์แล้วว่าการ ขับมอเตอร์ไซค์แก้เครียด และเพิ่มสมาธิได้ 100% ซึ่งงานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยของ มหาวิทยาลัย UCLA ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Harley-Davidson โดยจัดทำขึ้นเพื่อศึกษาพฤติกรรมและการขับขี่พร้อมทั้งสุขภาพของผู้ขับขี่ ตลอดระยะทาง 22 ไมล์หรือประมาณ 35 กิโลเมตร ดังนั้นวันนี้ทางเว็บไซต์ bigbikeinfo.com ได้นำสาระ Bigbike มาฝากทุกคนว่าการขี่มอเตอร์ไซค์ช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิได้อย่างไร
งานวิจัยเผย ขับมอเตอร์ไซค์แก้เครียด และเพิ่มสมาธิได้จริง
นักขี่ทุกคนคงทราบและรู้สึกถึงความผ่อนคลาย และเลือดลมที่สูบฉีดทุกครั้งเมื่อได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ของคุณอยู่แล้ว แต่เมื่อพูดถึงกลุ่มคนที่ไม่เคยได้สัมผัสกับรถจักรยานยนต์ 2 ล้อ คงไม่สามารถเข้าถึงเสน่ห์และความรู้สึกของ มอเตอร์ไซค์ อย่างแท้จริงได้จนบางคนนั้นเลือกที่จะตั้งคำถามหรือมีคำถามมากมายว่า “ทำไมถึงชอบขี่มอเตอร์ไซค์” แต่วันนี้ เราจะได้นำบทความนี้ไปให้กับกลุ่มคนเหล่านั้นได้อ่านเพราะวันนี้เราจะพูดถึงการขับขี่มอเตอร์ไซค์ช่วยลดความเครียดและช่วยเพิ่มสมาธิได้จริง 100 เปอร์เซ็นต์เพราะมีผลงานวิจัยและผลวิจัยที่สามารถพิสูจน์ได้อย่างแท้จริงว่าการขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นสามารถแก้เครียดได้จริง
หน่วยงานวิจัยที่เราจะพูดถึงในวันนี้เป็นงานวิจัยของสถาบัน Semel Institue มหาวิทยาลัย UCLA ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Harley-Davidson ได้ออกมาเปิดเผยอย่างชัดเจนแล้วว่าแม้ว่าการขับเพียงรถสกู๊ตเตอร์คันเล็กๆก็สามารถส่งผลลัพธ์แบบเดียวกันกับการออกกำลังกายและที่สำคัญยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอลได้เป็นอย่างดี ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้เป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียดตนเอง ซึ่งเป็นการศึกษาพฤติกรรมของนักขี่มากกว่าประสบการณ์ที่มีการดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างดีโดยงานวิจัยนี้ได้ให้นักขี่เหล่านี้มาขับมอเตอร์ไซค์ตามเส้นทางที่กำหนดซึ่งมีระยะทางมากกว่า 22 ไมล์หรือประมาณ 35 กิโลเมตรภายใต้สภาวะต่างๆ
Dr.Don Vaughn นักประสาทวิทยาผู้นำทีมวิจัยเผยว่า การวิจัยชิ้นนี้ได้ใช้เทคโนโลยี EEG แบบเคลื่อนที่ ซึ่งสามารถตรวจวัดการทำงานของระดับสารต่างๆ ภายในร่างกายและในสมองขณะทำกิจกรรมต่างๆตั้งแต่ก่อนเริ่มขี่ ขณะขี่ และหลังจากขี่ รวมไปถึงขณะขับรถยนต์และตอนพักผ่อน พร้อมทั้งยังมีการเก็บข้อมูลสมองและอัตราการเต้นของหัวใจอีกด้วยที่สำคัญยังทำการตรวจวัดระดับสารอะดรีนาลีน นอร์อะดรีนาลีน และคอร์ติซอลภายในร่างกายของผู้ทดสอบ ซึ่งผลสรุปของการทดสอบปรากฏว่า ผู้เข้าร่วมทดสอบนั้นมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยการทำเช่นนี้นั้นส่งผลให้เกิดความรู้สึกที่คล้ายคลึงกับการออกกำลังกายเบาๆและช่วยให้ผู้เข้าร่วมทดลองหรือผู้ขับขี่สามารถลดความเครียดและผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดี
ข้อสรุปงานวิจัย
- การขับขี่รถจักรยานยนต์ช่วยลดการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลและช่วยลดความเครียดได้ถึง 28%
- การขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นระยะเวลากว่า 20 นาทีสามารถเพิ่มอัตราเต้นของหัวใจได้สูงถึง 11 เปอร์เซ็นต์และเพิ่มอดรีนาลินภายในร่างกายได้ 28 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเทียบกับการออกกำลังกายเบาๆ
- ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ผู้ขับขี่จะมีระดับสมาธิที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมเมื่อเทียบกับการขับรถยนต์
- ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์จะหลั่งสารกระตุ้นเพื่อความตื่นเต้นซึ่งเทียบกับการดื่มกาแฟ 1 แก้ว
*ผลงานวิจัยฉบับนี้ใช้ชื่อเต็มว่า “ปฏิกิริยาทางจิตและกายภาพขณะขี่มอเตอร์ไซค์” โดยเป็นการเก็บข้อมูลชีวภาพและสรีรวิทยาจากนักขี่มากประสบการณ์ 50 คนโดยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย EEG แบบเคลื่อน
ดังนั้น สำหรับใครที่ชอบขับรถบิ๊กไบค์คันโปรดคู่ใจของคุณออกไปเที่ยวหรือขับไปไหนต่อไหนเป็นประจำ แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อคุณไม่ได้จับหรือไม่ได้ขับรถคู่ใจของคุณจนบางครั้งคุณอาจมีอารมณ์หรือเกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมา เพราะไม่ได้ขับรถคันโปรดของคุณไปตามท้องถนนให้สายลมปะทะร่างของคุณ พร้อมทั้งเสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจ จนคุณนั้นรู้สึกดีที่ได้ขับรถบิ๊กไบค์คันโปรดของคุณ วันนี้ทางเว็บไซต์ bigbikeinfo.com ขอบอกเลยว่า สิ่งที่คุณเป็นอยู่นั้น คุณไม่ได้คิดไปเอง
ติดตามสาระเพิ่มเติมผ่าน Facebook นี่แหละบิ๊กไบค์ ได้ที่นี่